
มีใครเคยตั้งคำถามบ้างไหมว่า
ทั้งสองแบรนด์ อยู่ในกระแสความสนใจอย่างมาก
แต่ผลลัพธ์ ก็แตกต่างกันมากเช่นกัน
แต่ถ้าคุณกำลังจะสร้างแบรนด์
อะไรคือสิ่งที่คุณเรียนรู้จากทั้งสองแบรนด์นี้
เริ่มที่ดิไอคอนก่อน
แบรนด์นี้เขาบอกว่า มีเป้าหมายธุรกิจชัดเจน
โดยเฉพาะเรื่องตัวเลข ว่าต้องเติบโต ในระดับหลักหมื่นล้าน
การ Set goal brand เป็นเรื่องสำคัญมาก
แต่ปัจจุบัน เขาอยู่ที่หลักประมาณ 5-6 พันล้าน
แต่ทำไม ดิไอคอนจึง มียอดขายสูงมาก ทั้งๆที่ธุรกิจ
เพิ่งทำมาไม่กี่ปี
ถ้าเราพูดถึง เบอร์หนึ่ง แอมเวย์ ที่มียอดธุรกิจโดยประมาณ 16,000
กิฟฟารีน ที่เป็นแบรนด์ที่คนรู้จักมานานอยู่ที่ราวๆ 5,999 กว่าล้าน
หรือซูเหลียน ณ ปัจจุบันก็อยู่ที่เฉลี่ย 1,600 ล้าน โดยทั้งหมดเป็นยอดคาดคะเน
ผลประกอบการในช่วงปีที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นสำคัญ ผุ้ก่อตั้ง โดยทีมดิไอคอน คือคนในวงการ
ที่เข้าใจธุรกิจนี้เป็นอย่างดี รู้ว่าการทำธรุกิจนี้ต้องทำอะไรบ้าง
แต่การที่จะทำให้ถึงหลักพันล้านนั้น
เขามี 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1. Funnel ออนไลน์ ที่คุณปฏิเสธไม่ลง
เหตุผลของเรื่องนี้คือ ใช้ นั่นก็คือ เขาเอาความไม่รู้และอยากรู้มาขายคุณ
ในราคาที่ถูกมาก ก็คือ เรื่อง คุณอยากเก่งออนไลน์มั้ย
คุณอยากทำธุรกิจออนไลน์มั้ย ในทางการตลาดเราเรียก
วิธีแบบนี้ สร้าง Funnel system ว่าเป็นการสร้าง บ่อล่อปลาให้เข้ามามากที่สุด
เขาขายคุณด้วยราคาเหมือนให้เปล่า 98 บาท และค่อยไปเอากำไรต่อ
และทีมงานที่เรียกว่า Set มาพร้อมเพื่อเรียกคน
ให้มากถึงหลักหมื่นหลักแสนคนเข้าไป
เพราะเขาเชื่อว่า เมื่อคุณเข้ามาแล้ว
โอกาสในการที่คุณจะไม่ซื้อของของเขานั้น
ยากมากครับ เพราะคุณกำลังเจอ มนต์ที่เขาจะร่ายให้คุณ
ต้องติดกับดัก ไม่ว่าจะเป็น 2,500 25,000 หรือ 250,000
2. พลังของการใช้ คนที่ตะโกนเชียร์ต้องเก่ง หรือ
คนมีชื่อเสียง เขาใช้วิธ๊ Celebrity marketing
หรือคนดัง พูดเสียงดังกว่าคนไม่ดัง
ปัจจัยสำคัญ การโฆษณา และความเชื่อ
ที่ทำให้คนหลงเชื่อว่า
ของเขาน่ะ ทำให้รวยได้จริง
โดยมีคนมีชื่อเสียง เป็น เหมือนใบรับรอง
ประมาณว่า คนมีชื่อเสียงมีการันตีขนาดนี้
ถ้าไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไง
ตามปรกติแล้ว presenter สินค้า ใช้อย่างมาก ก็หนึ่งคน
แต่คุณดูของ ดิไอคออนนั้น มากันเป็นทีม หลายคนมากๆ
และอย่างที่เรารู้ นี่ประเทศไทย
เราเชื่อคน มากกว่าเชื่อเหตุและผล
ทำให้การซื้อด้วยการเชื่อคนที่เราคุ้นเคย
จึงมีผลต่อยอดของการเติบโต ดิไอคอน
ปัจจัยสุดท้าย ข้อ 3 การเล่นกับ Pain point ของคน
ก็คือ คนในยุคนี้ แสวงหาความรวย ยิ่งรวยง่าย รวยเร็ว
มีวิธีไหนบ้าง ที่ฉันไม่ต้องเหนื่อย
ทำง่าย มีคนทำให้ ซึ่งเป็น Pain point ที่ คนบ้านเรา ถูกฝังอยู่ใน DNA
คุณเคยได้ยินมั้ย คำพูดตอนเด็กๆ เรียนสูงๆนะลูก ต่อไปจะได้เป็น จ้าวคนนายคน
เรื่องของ การได้เงิน โดยไม่ต้องทำอะไร ลอยมาเฉยๆ
คำว่า Passive Income เป็นคำแห่งยุคสมัยที่ใครต่างอยากได้
โดยที่จริงๆแล้ว พื้นฐานของการทำธุรกิจ คุณต้องมีความรู้และเข้าใจเรื่องธุรกิจ
คุณต้องรู้จัก สินค้า ศึกษา รวมถึง เรื่องของการทำการตลาด
ยิ่งเป็ฯการตลาดออนไลน์แล้วถ้าคุณอยากได้ส่วนแบ่งจากลูกทีม
คุณต้องมีทักษะการสร้างทีมเป็นเรื่องที่คุณต้องฝึกฝนอย่างเชี่ยวชาญทั้งสิ้น
แต่เรื่องที่เราควรได้เรียนรู้ว่าทำไม ธุรกิจนี้ถึงได้ขยายปีกได้อย่างรวดเร็ว
คือปัจจัยสำคัญ ที่ถ้าเราถอดโครงสร้าง แล้วมองเห็น เราจะรู้ได้ถึง
สิ่งที่เป็นกลไก ที่ทำให้คนวิ่งเข้ามา
3 กลไกสำคัญที่ทำให้ธุรกิจนี้ เติบโตได้เร็วมาก
1. ใช้ระบบออนไลน์ แบบที่เป็น funnel system
2. ใช้ คนที่เป็นกระบอกเสียงที่มีประสิทธิภาพ
3. เล่นกับ painpoint และ ปัญหา หรือความต้องการของคนที่อยู่ในขั้นสุด
แต่สิ่งที่เคสนี้ที่อาจจะพลาดอย่างแรกก็คือ
เรื่องของสินค้าที่ไม่ได้ดึงดูดผู้บริโภคมากพ
ซึ่งมันจึงผิดหลักการของธุรกิจที่ต้องมีสินค้าแม่เหล็ก
และส่วนใหญ่ที่ ธุรกิจเหล่านี้ มักจะลืม และไม่เคยคิดถึงนั่นก็คือ
คำว่า ธรรมาภิบาล ซึ่งถ้าคุณไปดูหลักของธุรกิจขนาดใหญ่ที่สำคัญที่สุด
ก็คือ การบริหาร การจัดการการควบคุมดูแล กิจการต่าง ๆ ให้เป็นไปในครรลองธรรม
หาได้มีความหมายเพียงหลักธรรมทางศาสนาเท่านั้น
แต่รวมถึง ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม และความถูกต้องชอบธรรมทั้งปวง
ซึ่งทั้งบริษัท แม่ทีม พึงมีและพึงประพฤติปฏิบัติ เช่น ความโปร่งใสตรวจสอบได้
การปราศจากการแทรกแซงจากองค์กรภายนอก หรือบุคคล
ทีนี้เรามาดูฝั่งของ แบรนด์คนตื่นธรรม
ที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากก็คือ
อยากให้คนได้เข้าใจเรื่องของพระพุทธวจน
อันเป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
แล้วสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
ซึ่งนี้คือ สิ่งสำคัญเบื้องต้ การกำหนดเป้าหมายแบรนด์
และสิ่งที่แตกต่างออกไป และเป็นหัวใจก้คือ
เรื่องของ สินค้า ของแบรนด์ ได้แก่ พระธรรมคำสอน
ที่เป็นเหมือนกับ hero product ที่ทุกคนล้วนแต่เห็น Value ที่สำคัญมากๆ
ปัจจัยข้อ 2 ก็คือ กระบอกเสียง
คนตื่นธรรม ก็คือตัวอาจารย์เบียร์
จะมาจาก Zero แต่ด้วยทักษะ ความสามรถในการสื่อสาร รวมถึง
การที่ อาจารย์เบียร์อ่าน insights ของคนในออไลน์ออกว่า
ทุกข์ร้อนอะไรอยู่ รวมถึง ต้องการความดุเดือด ต้องแซ่บ
ถึงจะเรียก Attention จากคนได้ซึ่งไม่ต่างจาก 98 บาทของดิไอคอน
และสุดท้าย 3 ก็ใช้พลังขยายจาก online System
อาจารย์เบียร์ live ทุกวันอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ว่า คนตื่นธรรม
จะไม่มี การลงทุนสร้าง backup system ที่เป็นระบบ
แต่ด้วย value ของ product ที่ทรงคุณค่าจึงทำให้
เกิด network marketing
ที่เป็นธรรมชาติ ที่ใครเห็นก็เอามาแชร์ มารีโพส
ทำให้ Brand คนตื่นธรรม จึงเป็นแบรนด์ที่เติบโต
อย่าง Organic version ไม่ได้ใช้ปัจจัยเรื่องเงิน
หรือการสร้างทีมที่ต้องมี Funnel ในหลักการ
แต่มีธรรมชาติของ value product
รวมถึง ความสม่ำเสมอต่อการสื่อสาร
และ Value ของผู้สื่อสาร อย่างอาจารย์เบียร์
ที่วันนี้ก็เป็นเป็น Celebrity หรือผู้ทรงอิทธิพลไปแล้ว ท่านนึงเป็นแล้ว
ข้อเสริมท้าย
เครื่องมือที่ทำให้คนจดจำแบรนด์ได้ก็สำคัญ
จะเห็นว่าทั้งโลโก้ ของ ไอคอนที่เป็นรูปปีกก็ดี
หรือคำว่า คนตื่นธรรม ที่ติดอยู่บนเสื้อของอาจารย์
กลายเป็นสัญญลักษณ์ของแบรนด์ที่คน จดจำได้
ถ้าคุณกำลังจะต้องการสร้างแบรนด์
นี่คือตัวอย่างที่อาจจะทำให้คุณเข้าใจเรื่องของสัญญลักษณ์
ที่ไม่ต้องติดกับตัวบุคคลที่ว่า การมีแบรนด์
ช่วยทั้งเบาภาระว่าไม่ต้องติดที่คนใดคนนึง
รวมถึง ทำให้แบรนด์ขยายได้รวดเร็วขึ้น
เมื่อมีโลโก้ ติดอยู่บนสื่อออนไลน์ หรือสิ่งพิมพ์ต่างๆ
ถ้าใครที่กำลังจะทำแบรนด์ สามารถติดต่อหรือพูดคุยกับพวกเรา
เพื่อให้แบรนด์ของคุณสามารถเติบโตได้อย่างมีทิศทาง
ซึ่งตอนนี้ทาง Extrasunday มีโปรพิเศษ สำหรับแบรนด์
ที่มีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยผ่านช่องทางออนไลน์ได้แก่
เวปไซด์ หรือ LineOA: @Extrasunday
Comments